Download รายละเอียดหลักสูตร

- Foundational  + Advance Coaching Double Certification Training Program (Level 1: 60 Hours)

(Level 2: 125 Hours including Level 1)


สามารถลงเรียน Enneagram Coaching Certification เพิ่มและรับเป็น 2 ประกาศนียบัตรจากหลักสูตรนี้ได้

 

 ด้วยประสบการการสอนหลักสูตรการโค้ชที่ได้รับการรับรองโดย International Coach Federation และช่วยให้นักเรียนสอบคุณวุฒิได้สำเร็จตลอดจนแนะนำเส้นทางสู่การเป็นโค้ชมืออาชีพได้จริง

 หลักสูตรประกาศนียบัตรการโค้ชมืออาชีพระดับพื้นฐาน + ระดับสูง

สมรรถนะทั้ง 8 ของ International Coaching Federation 

Coaching Competencies ทั้ง 8

1. Demonstrates Ethical Practice

2. Embodies a Coaching Mindset

3. Establishes and Maintains Agreements

4. Cultivates Trust and Safety

5. Maintains Presence

6. Listens Actively

7. Evokes Awareness

8. Facilitates Client Growth

ฟังโค้ชนิดา Program Director และ Instructor ของหลักสูตรนี้ อธิบายถึงแต่ละ Competency ได้ในวิดีโอนี้

 

สิ่งที่ได้รับจากหลักสูตรนี้

เรียนรู้วิธีการโค้ชตามหลักสากล ตามหลักสมรรถนะทั้ง 8 ของ International Coach Federation

  • เข้าใจกระบวนการโค้ชตั้งแต่ต้นจนจบ และสามารถนำไปใช้ในการโค้ชลูกค้า และพนักงานได้จริง

  • เข้าใจตนเองอย่างลึกซึ้ง สร้างแผนที่เส้นทางการพัฒนาตนเองที่มีประสิทธิภาพ

  • เข้าใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง ลดความขัดแย้ง พัฒนาการสื่อสารและความสัมพันธ์กับคนรอบตัว

  • เข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อนของตนเอง เข้าใจหลุมพรางที่เรามักตกลงไปซ้ำ ๆ ที่เป็นสาเหตุหลักอย่างหนึ่งที่เรายังไม่บรรลุเป้าหมายต่าง ๆที่ต้องการ เพื่อที่จะพัฒนาตนเองได้อย่างถูกวิธีดึงศักยภาพขีดสุดออกมา

  • พัฒนายกระดับ EQ ของตนเอง

  • นำองค์ความรู้และทักษะที่ได้ไปใช้ในการบริหารคน พัฒนาคน การขาย การเจรจาต่อรอง การสื่อสาร การนำเสนองาน และอีกมากมาย

  • ฝึกโค้ชจริงตามกระบวนการ framework ต่าง ๆ ทั้งในคลาสสดและออนไลน์

  • เรียนรู้ความรู้เรื่องจิตวิทยาพื้นฐานสำหรับการพัฒนาคน และปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลต่อรูปแบบความคิด พฤติกรรมของค

  • ฝึกการสังเกต ดูไทพ์คนและปรับการสื่อสารและวิธีเชื่อมความสัมพันธ์กับคนแต่ละไทพ์ (สำหรับผู้ที่ลงเรียน Level 2)

  • Report ไทพ์บุคลิกภาพ Myers-Briggs Type Indicator MBTI® (บุคลิกภาพ 16 ประเภท) จำนวน 17 หน้า และ Report Enneagram IEQ9 จำนวน 23 หน้า มาตรฐานสากลจากต่างประเภท (สำหรับผู้ที่ลงหลักสูตร Level 2)

หัวข้อการเรียนรู้

Level 1

- การโค้ชคืออะไร แตกต่างกับ therapy, consulting, training, mentoring อย่างไร และการโค้ชเหมาะกับใช้ในสถานการณ์ใดบ้าง

- สมรรถนะการโค้ช ทั้ง 8 ข้อ 

- เรียนรู้ความแตกต่างของการโค้ชในระดับ ACC, PCC, MCC (Associate, Professional, Master)

- Being a Coach vs. Doing Coaching

- เรียนรู้กระบวนการโค้ชแบบละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ

- องค์ประกอบของ Well-being ที่ดี

- การสร้าง Emotional Intelligence (EQ) และการนำมาปรับใช้ในการโค้ชและการพัฒนาชีวิตส่วนตัวและการทำงาน

- Growth Mindset & Coaching from a place of being equal เป็นส่วนหนึ่งของ Coaching Mindset

- การฟัง สะท้อน ถามคำถาม เพื่อค้นหา เรียนรู้ปัญหาและอุปสรรคที่แท้จริงของ Coachee

- การหา Value (ค่านิยม คุณค่าที่เราให้ความสำคัญ สิ่งที่ขับเคลื่อนการตัดสินใจทุกอย่างในชีวิตเรา)

- การหาจุดแข็ง (strengths)

- จิตสำนึก vs. จิตใต้สำนึก

Level 2

- โค้ชระดับ Advance ให้ลึกขึ้น คมขึ้น ต้องเป็นโค้ชแบบไหน และต้องฝึกเพิ่มอะไรบ้าง

- การฝึกความกล้าที่จะเข้าไปสำรวจให้ลึกขึ้น (Exploring the light and the dark)

- การเป็นโค้ชที่มาจาก mindset ที่เป็นกระดาษเปล่า และกล้าที่จะเปราะบาง (Being Vulnerable)

- การขยายพื้นที่ในการโค้ช (Creating abundant space in the coaching session)

- ธีมปัญหาและอุปสรรคที่ coachee มี และวิธีการโค้ชเพื่อให้ coachee ค้นหาทางออกและพบคำตอบของตนเองได้สำเร็จ

- Coaching Mentoring แบบกลุ่ม 7 ชม. และแบบเดี่ยว 3 ชม. โดยโค้ชระดับ MCC (Master Certified Coach คุณวุฒิสูงสุด)

- วิธีการทำ Free Coaching Session เพื่อขายแพ็กเกจการโค้ชที่ได้ผล

- วิธีการสร้างแพ็กเกจการโค้ช ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้

- การตลาดและการขายแบบสร้างคุณค่าระดับสูงและความไว้วางใจ

- เตรียมการสอบข้อสอบ CKA (Coach Knowledge Assessment) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสอบคุณวุฒิด้านการโค้ชกับ ICF (International Coaching Federation)

รับ Enneagram IEQ9® และ MBTI® Official Report ระดับโลก

พร้อมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ ใน workshop เพื่อค้นหาไทพ์ของตัวเอง (สำหรับผู้ที่ลงเรียน Level 2)

สอบถาม สมัครเข้าร่วมอบรมหลักสูตรนี้ได้ที่ Line ของเราค่ะ

LINE: @coachnida
Add the Line using Html tags

Add the Line using Html tags

Add the Line using Html tags
    • เรียนรู้หลักสมรรถนะการโค้ช 8 ข้อของ ICF สหพันธ์โค้ชนานาชาติ

      • สาธิตให้เห็นถึงการมีจรรยาบรรณในการโค้ช (Demonstrates Ethical Practice)

      • มีกรอบความคิดแบบโค้ช (Embodies a Coaching Mindset)

      • สร้างข้อตกลงสำหรับการโค้ชและรักษาข้อสัญญาเหล่านั้น (Establishes and maintains agreements)

      • สร้างความไว้ใจและความรู้สึกปลอดภัย (Cultivates Trust and Safety)

      • จดจ่อกับลูกค้าและบทสนทนาการโค้ช (Maintains Presence)

      • การฟังเชิงลึก (Listens Actively)

      • สร้างความตระหนักรู้ (Evokes Awareness)

      • ใช้กระบวนการที่ช่วยให้ลูกค้าเกิดการเติบโตพัฒนา (Facilitates Client Growth)

  • เรียนรู้การนำหลักการ สมรรถนะต่าง ๆ วิธีการและเครื่องมือต่าง ๆ ที่ได้เรียนจากในคลาสไปใช้ในการโค้ชลูกค้า

  • เรียนรู้กระบวนการโค้ชและฝึกจริงทุกขั้นตอน

  • วิธีฟังและจับใจความสิ่งที่เป็นแรงผลักดันของคนแต่ละคนมาใช้และวางแผนรับมือกับสิ่งที่ขัดขวางคนแต่ละไทพ์จากความสำเร็จได้พร้อมทั้งฝึกการโค้ชจริงในคลาส

  • เรียนรู้ระบบของ Enneagram และลักษณะของไทพ์ทั้ง 9 อย่างละเอียด

  • เรียนรู้วิธีการอ่านไทพ์ด้วยการสัมภาษณ์คนด้วยชุดคำถาม และการสังเกตภาษากาย รูปแบบภาษา ลักษณะอุปสรรคหรือความท้าทายในชีวิตของคนแต่ละไทพ์

  • ผึก typing ไทพ์ enneagram ในคลาส

  • Enneagram และความต้องการทั้ง 6 ของคน (Tony Robbins & Cloe Madanes’ 6 Human needs Psychology)

  • MBTI® พื้นฐาน + workshop ค้นหาไทพ์ MBTI®

  • Enneagram และการเชื่อมโยงกับ MBTI®

  • Enneagram และ PAEI system วิตามิน 4 อย่างที่จำเป็นสำหรับองค์กร ครอบครัวและความสัมพันธ์และบุคคลที่สุขภาพดี เรียนรู้วิธีการสัมภาษณ์และหารรหัส 4 ตัวนี้สำหรับแต่ละบุคคลและวิธีการนำไปใช้ในการโค้ชพร้อมฝึกทำจริงในคลาส

  • ศูนย์อัจฉริยะทั้ง 4 ความฉลาดทางความคิด ความฉลาดทางอารมณ์ ความฉลาดทางกาย ความฉลาดทางจิตวิญญาณ

  • การเชื่อมความสัมพันธ์กับคนแต่ละไทพ์ สิ่งที่ควรทำ และไม่ควรทำ

  • การสนับสนุนส่งเสริมคนแต่ละไทพ์

  • การเปลี่ยนแปลงความเชื่อที่จำกัดตัวเอง (limiting beliefs) สำหรับคนแต่ละไทพ์

  • การทำงานกับ Enneagram Triads ในการ coaching

  • การดึงทรัพยากรมาใช้จากไทพ์อื่น ๆ

  • 3 ฐาน Enneagram (ฐานใจ Emotional Center – ฐานกาย Body Center – ฐานความคิด Thinking Center)

  • การอยู่ในห้วงเวลาปัจจุบัน ตัวตนที่แท้จริงของเรา และอัตตา (Ego) ในบริบทของ Enneagram

  • การอยู่ในห้วงเวลาปัจจุบันของโค้ช การสร้างพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการโค้ช สไตล์หรือไทพ์ของโค้ชส่งผลต่อการโค้ชอย่างไร และควรทำอย่างไรเพื่อแก้ไข

  • การใช้การฟังแบบสองทาง (Two-way listening) การฟังหลากช่องทาง (Multimodal) และการตระหนักรู้หลายระดับ (multilayer awareness) 

  • การสรรค์สร้างการสังเกตการณ์จากภายใน (Inner Observer)

  • Subtypes

  • กลไกการปกป้องตัวเองของไทพ์ต่าง ๆ (defense mechanisms) ที่ ego ใช้ วิธีการสังเกตและวิธีแก้ไขการใช้กลไกเหล่านี้ในการบ่อนทำลายผลลัพธ์ของตัวเอง

  • วิธีการอย่างละเอียดสำหรับการโค้ชคนแต่ละไทพ์ (coaching protocol) อย่างมีประสิทธิภาพประสิทธิผล

  • เข้าใจตนเองและผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง เข้าใจจุดเด่น จุดบอด และหลุมพรางของตนเอง พร้อมวิธีก้าวข้ามเอาชนะอุปสรรคเดิม ๆ ที่ทำให้เราไม่บรรลุเป้าหมายของตนเองสักที

  • จิตวิทยาพื้นฐานสำหรับการเข้าใจตนเอง เข้าใจผู้อื่น เข้าใจปัจจัยต่างๆที่ส่งผลต่อความคิด ความรู้สึก พฤติกรรมและผลลัพธ์ในชีวิต

  • Career Development สอนวิธีการสร้างรายได้และธุรกิจจากอาชีพการโค้ชได้จริง ตั้งแต่การเลือกประเภทของการโค้ช ไปจนถึงเรื่องการตลาด การทำ Personal Branding

ความแตกต่างของหลักสูตรเรา

 

  • เรียนวิธีการโค้ชที่ถูกต้องตั้งแต่หลักสูตรแรก ติดกระดุมเม็ดแรกให้ถูกสำคัญมาก

  • สอนโดยนิดา เลิศประสพสุข Master Coach โค้ชที่ได้รับคุณวุฒิระดับสูงสุด (ระดับ MCC Master Certified Coach)

  • มีการฝึกในห้องเรียนทาง zoom และให้ส่งเทปบันทึกการโค้ชมาประเมิน พร้อมทั้งรับเอกสาร feedback จาก mentor coach แบบละเอียด ตรงจุดที่ต้องแก้ไขพัฒนา เป็นวิธีการที่ช่วยให้ upskill ได้เร็วมาก

  • Program fee Level 1 65,000.- บาท Level 2 (รวม Level 1 แล้ว) 155,000.- บาท

     

    Level 2 + Personal Mentoring 195,000.- บาท 

Mentoring Program

 

  • สำหรับผู้ที่ต้องการสอบคุณวุฒิการโค้ชกับทาง International Coach Federation หรือสหพันธ์โค้ชนานาชาติ

  • Mentor โดยโค้ชคุณวุฒิระดับสูงสุด (ระดับ MCC)

  • mentor แบบกลุ่ม 5 ครั้ง พร้อมทั้งเตรียมความพร้อมในการสอบข้อสอบ Coach Knowledge Assessment กับทาง International Coach Federation

  •  mentoring session แบบ 1:1 อีกทั้งหมด 5 ครั้ง ช่วยให้คุณเรียนรู้ได้ว่า ต้องพัฒนาตรงไหนบ้าง และพัฒนาอย่างไรเพื่อ master skill และ mindset ในการเป็นโค้ช

  • fee สำหรับ mentoring program 

หัวข้อการเรียนรู้

Add the Line using Html tags
LINE: @coachnida

 

 

แชร์ประสบการณ์ผู้ที่ได้เข้าร่วมหลักสูตรกับเรา

 

 

"เริ่มจากการที่ยังไม่ใช่การโค้ชเลย เป็นการแนะนำหรือการให้คำปรึกษาและยังไม่แม่นยำเกี่ยวกับการใช้ ICF Coaching Competencies  เมื่อพัฒนาจาก Feedback ที่โค้ชให้ตลอดจนการฝึกฝนทั้งกับเพื่อนๆในคลาสรวมทั้งจากการเก็บชั่วโมงการโค้ชจริงภายนอก และได้นำมาปรับปรุงการโค้ชเรื่อยมาใช้เวลาประมาณหนึ่งปี..."

 

SOMSIRI SILPANONT

Executive Career Coach (Professional Certified Coach)

 

เรียนโค้ชที่สถาบันของโค้ชนิดาได้เรียนครบทุกอย่างที่สนใจ คือ การเรียนรู้การไทพ์บุคลิกภาพ การเรียนเกี่ยวกับ Executive Coaching และ Career Coaching ที่เป็นสิ่งที่สนใจและตั้งใจจะมาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องเหล่านี้ ที่นี่นอกจากการเรียนในทฤษฎีแล้วยังมีการฝึกฝนที่เข้มข้น

 

เท่าที่ได้พูดคุยกับเพื่อนๆที่เรียนจากหลายสถาบันที่สอนการโค้ช ที่นี่มีการฝึกฝนที่จริงจังและเข้มข้นมากกว่า การให้ Feedback ที่ตรงประเด็นกว่า พวกเราต้องฝึกการโค้ชโดยฝึกโค้ชกันเองและโค้ชช่วย mentor ในคลาสหลังเรียนทฤษฎีแล้ว หลังจากนั้นเราต้องเก็บชั่วโมงการโค้ช ในการฝึกมีการให้ Feedback ที่ตรงและชัดเจนซึ่งทำให้เราสามารถทราบได้ว่าจุดใดหรือประเด็นใดที่ยังคงต้องปรับปรุงพัฒนา ในครั้งต่อๆไปที่ทำการโค้ชเราจึงสามารถพัฒนาเทคนิควิธีการทำได้ดีขึ้น

 

ในส่วนการ mentoring พวกเราต้องส่ง Coaching Sessions หลายครั้ง ในกรณีของเปิ้ลเองเริ่มจากการที่ยังไม่ใช่การโค้ชเลย เป็นการแนะนำหรือการให้คำปรึกษาและยังไม่แม่นยำเกี่ยวกับการใช้ ICF Coaching Competencies  เมื่อพัฒนาจาก Feedback ที่โค้ชให้ตลอดจนการฝึกฝนทั้งกับเพื่อนๆในคลาสรวมทั้งจากการเก็บชั่วโมงการโค้ชจริงภายนอก และได้นำมาปรับปรุงการโค้ชเรื่อยมาใช้เวลาประมาณหนึ่งปี นอกจากนี้ในเรื่องการเตรียมตัวสอบข้อเขียน The Coach Knowledge Assessment (CKA) โค้ชก็มีอธิบายแนะนำแนวทางได้เป็นอย่างละเอียดช่วยให้เข้าใจ competency อย่างลึกซึ้งทำให้การสอบผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ

"ตอนนี้ผมได้รับการ Certify ระดับ PCC แล้ว และผมรู้ว่าผมเป็น PCC ที่มีคุณภาพเพราะโค้ชนิดา และผมตั้งใจว่าจะพัฒนาการโค้ชของผมให้ได้ถึงระดับ MCC ตามรอยของโค้ชนิดาให้ได้อย่างแน่นอน"

 

Pitipong Cheeranont

Network Coach (Professional Certified Coach)

 

ก่อนที่ผมจะเข้าเรียนหลักสูตรการโค้ชกับโค้ชนิดา ผมได้ผ่านการเรียนเรื่องการโค้ชจากสถาบันอื่นมาแล้ว ถ้านับรวมชั่วโมงการเข้าเรียน ทั้งหมดกว่า 185 ชั่วโมง ซึ่งถึงขั้นที่สามารถ Apply ระดับ PCC ได้เลย ถ้าผมเก็บชั่วโมงการโค้ชให้ครบ 500 ชั่วโมง ซึ่งในขณะนั้นผม Certify เป็น ACC แล้ว

 

ผมคิดอย่างไรถึงมาลงเรียนเพิ่มเติมจากโค้ชนิดาอีก ทั้งๆที่เหมือนกับเป็นการเรียนซ้ำซ้อน ผมอยากจะบอกความจริงอย่างนี้ครับว่า เริ่มแรกเลย ผมสนใจศึกษาเรื่อง Enneagram จึงได้เข้ามาเรียนที่นี่ และผมได้พบว่าโค้ชนิดามีวิธีการถ่ายทอดความรู้ได้ดีมากๆ ผมจึงตัดสินใจเข้าเรียนใน ACSTH Program และ ACTP Program ต่อเนื่องเลย ทั้งๆที่ผมได้เคยเรียนมาแล้วจากที่อื่น เพราะผมอยากจะเพิ่มทักษะการโค้ชของผมให้ดีขึ้นไปอีก และผมก็รู้ได้เลยว่า ผมคิดถูกอย่างยิ่งที่ได้เข้าเรียนการโค้ชกับโค้ชนิดาในครั้งนั้น สิ่งที่ผมคิดว่ามีผลต่อการพัฒนาการโค้ชของผมคือ ในโปรแกรมการโค้ชนี้ โค้ชนิดาได้เปิดพื้นที่ให้เวลาพวกเราฝึกการโค้ชด้วยกันเองเยอะมาก และโค้ชนิดาก็จะคอย Feedback แบบตรงๆ หนักๆ เพื่อให้ทุกคนได้เห็นถึงจุดที่ควรจะต้องแก้ไขปรับปรุงโดยทุกครั้งจะมีเพื่อนคนอื่นร่วมฟังอยู่ด้วย และพวกเราทุกคนก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ซึ่ง Session นี้ผมได้พัฒนาเรื่องการโค้ชของผมเป็นอย่างมากมีความมั่นใจในการโค้ชมากขึ้น

 

ตอนนี้ผมได้รับการ Certify ระดับ PCC แล้ว และผมรู้ว่าผมเป็น PCC ที่มีคุณภาพเพราะโค้ชนิดา และผมตั้งใจว่าจะพัฒนาการโค้ชของผมให้ได้ถึงระดับ MCC ตามรอยของโค้ชนิดาให้ได้อย่างแน่นอน ผมต้องขอขอบคุณโค้ชนิดาที่ปลูกฝังการเป็นโค้ชที่ดีและเก่งให้กับผม

 

ผมคงไม่มีอะไรพูดอีก นอกจากคำว่า ‘ขอบคุณมากครับโค้ชนิดา’

"การเดินทางที่เข้ามาเรียนกับโค้ชนิดาจนเป็น PCC coach ไม่ใช่ได้แค่ความรู้แต่เรายังได้เห็นโอกาสและอนาคตที่จะให้เห็นเส้นทางการเป็นโค้ชมืออาชีพได้จริง"

 

Monsoothatip Maraucanun 

Success & Mindset Coach (Professional Certified Coach)

 

การเดินทางที่เข้ามาเรียนกับโค้ชนิดาจนเป็น pcc coach ไม่ใช่ได้แค่ความรู้แต่เรายังได้เห็นโอกาสและอนาคตที่จะให้เห็นเส้นทางการเป็นโค้ชมืออาชีพได้จริง รวมทั้งเรายังได้กลับเข้าไปเปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้นทุกครั้งที่ได้ mentor ไม่ใช่ได้แค่เรื่องการโค้ช แต่เป็นเรื่องการพัฒนาตัวเองด้วย เพราะการเป็นโค้ชที่ดีควรพัฒนาตัวเองเป็น better version ที่เสถียรขึ้นอยู่เสมออีกด้วย

"ตัวชี้วัดของผมคือ CEO เรียกเข้าไปพูดคุยและมีช่วงหนึ่งท่านได้ชื่นชมว่า “ปีนี้คุณนัทเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ ไปทำอะไรมา..."

 

T-Rawat Piputkul

Accounting & Finance Director (Professional Certified Coach)

หากจะกล่าวถึงประสบการณ์ในการ Certify เป็น Coach เป็นอะไรที่ท้าทายมากเพราะตัวผมเองไม่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องการ Coach มาก่อนเลย ตอนเรียนหลักสูตรแรก ACSTH คือหลักสูตรระดับที่จะไปสอบ ACC ประสบการณ์ในการเรียนรู้สึกตื่นเต้นไปกับความรู้ใหม่ๆที่ Coach Nida ได้สอน (ตื่นเต้นคือ มีให้ดูวีดีโอก่อนไปเรียนด้วย) แอบคิดในใจ..ตายละ VDO แต่ละเรื่องเกือบชั่วโมงเลย และเมื่อเข้า Session เรียนก็มีบรรยายพร้อมกับทำ Workshop ไปด้วยขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า “เล่นจริงเจ็บจริง” คือได้ลงมือทำจริง รวมถึงการนำไปฝึกฝนต่อ และนำเอากรณีที่ผมไปฝึกแล้วติดปัญหา ก็นำกลับมาปรึกษา Coach Nida ได้ทั้งในSession และทาง Line เนื้อหาในหลักสูตรก็มี  Enneagram หรือ นพลักษณ์ ไทพ์บุคลิกภาพทั้ง 9 เคยได้ยินแต่ HR พูดว่ามันคือเครื่องมือในการประเมินบุคลิกภาพ ในใจคิด “อิหยังว่ะ” พอได้เข้าเรียนแล้วรู้สึกว่ามันตรงกับความต้องการของข้าพเจ้าคือ การเข้าใจตนเอง และเข้าใจคนอื่น ไม่รู้มาก่อนว่า Coach Nida ใช้ Enneagram สอน ตอนนั้นยิ่งทำให้ผมเริ่มที่จะหลงไหลศาสตร์การ Coach เพิ่มขึ้นโดยลำดับเมื่อจบหลักสูตรแล้วรวมถึงการส่ง Session เพื่อประเมินก็ตั้งใจแล้วว่าจะเรียนต่อและไม่สอบ ACC จะข้ามไปสอบ PCC เลยจึงเกิดตอนที่ 2 ขึ้น

           

มาเรียนหลักสูตร ACTP คือหลักสูตรระดับ PCC ที่ต้องมีการเก็บสะสมประสบการณ์การโค้ชกับโค้ชชีอย่างน้อย 25 คน ชั่งโมงการโค้ชทั้งหมด 500ชั่วโมงและส่ง Session ประเมินได้ 3 ครั้งจากความลำพองของผมที่ไม่ยอมส่งSession ประเมินตามแผนการสอนของ Coach Nida ทำให้พลาดโอกาสที่สำคัญที่จะได้รับการ Mentor ตามตารางที่กำหนด และไปนั่งทบทวนดูก็พบว่ามันเกิดจากType 8 : Commander ของ Enneagram หรือเปล่า ที่คิดว่าว่าผมสามารถทำได้ตามสมรรถนะการโค้ช ไม่น่ายากอะไร อันนี้คือสิ่งที่เรียนรู้ว่าความประมาทมาพร้อมกับความมั่นใจมันจะไม่ Work ครับ “ทำตามที่ Coach Nida วางแผนการเรียนไว้ครับดีที่สุด และจะได้คำแนะนำที่ตรงไปตรงมา ชัดเจนเพื่อการปรับปรุงการCoaching ให้ดีขึ้น

 

สิ่งที่ได้รับใน Session :  ตอน ACTP  คือได้เรียนเกี่ยวกับแบบวัดบุคลิกภาพ Mbti : Myers-Briggs Type Indicator กล่าวคือบุคลิกภาพ 16 แบบของผู้คนในเชิงลึกหลังจากจบแล้วก็มี Session Zoom ต่อเนื่องทุกวันอังคาร และส่ง Sessionประเมิน จากตอนแรกที่คิดว่าจะเรียนให้จบๆไปเพื่อการพัฒนาตนเอง ความคิดของผมเปลี่ยนไปแบบ 360 องศาเลยคือ ทำตัวเป็นแบบอย่างว่าคนเราต้องพัฒนาตนเอง ณ วันที่ส่ง Session ครั้งที่ 3 เพื่อประเมิน ประกอบกับ Session 2 ครั้งก่อนหน้าเราทำผ่านได้เพียงในระดับ ACC ซึ่งถ้าจะเอาแค่นั้นก็ได้หากแต่คุณค่าที่ข้าพเจ้าได้ให้ค่าคือ การได้ช่วยให้ตัวของข้าพเจ้าเอาได้ดีขึ้นจากภายใน (โดยการโค้ชของ Coach Nida) ที่ทำให้ข้าพเจ้าได้ปลดล๊อกตัวเองจากสิ่งที่ฉุดรั้งเอาไว้

 

ผมยิ่งเห็นพลังแห่งการใช้ศาสตร์การ Coach มากยิ่งขึ้นเพื่อเอาสิ่งนี้ไปแบ่งปัน  ช่วยเหลือให้ผู้คนที่อยู่รอบตัวของผมเองไม่ว่าจะเป็น ครอบครัว  เพื่อนร่วมงานทุกระดับ นิสิตนักศึกษาที่เราไปสอน และมองคนเป็นคนเท่าเทียมกันและเข้าใจในบริบทของการกระทำสิ่งที่ได้ประโยชน์กับผมเองคือ “เมื่อเลิกตัดสินคนอื่นและคาดหวังว่าคนอื่นต้องทำได้อย่านั้นอย่างนี้...การ Coaching ได้ปรับ Mindset ของผมและทำให้เราได้ชีวิตของการเป็นมนุษย์คนหนึ่งกลับคืนมา สิ่งที่ผมแบกเอาไว้บนบ่าเมื่อผมปลอดเครื่องพันธนาการ (ที่เกิดจากโลกภายในของตนเอง) และส่งผลต่อมุมมอง หรือเกิดสิ่งที่ Coach Nida มักเรียกว่าการ “ตื่นจากการหลับอยู่” และมีคำกล่าวที่ว่า “การเป็นโค้ชที่ดีต้องเจ็บปวดและล้มเหลวใน Session ถ้ายังโค้ชไม่เป็นหรือไม่ได้  เราก็ไม่ควรไปทำความเสียหายให้กับคนอื่น จากการเห็นวิธีการสอนและปฏิบัติจริง  รวมถึงคำกล่าวของ Coach Nida และ Mentor Coach P’Som ที่ค่อยให้คำแนะนำตลอดช่วงระยะเวลา 1 ปี จนกระทั่งข้าพเจ้าสอบผ่านในระดับ PCC ณ วันที่ 10 Oct 2021

 

Coach Nida ก็จัดเต็มมากอธิบายลึกถามตอบกับผู้เรียนรวมถึงการยกตัวอย่างให้เห็นภาพ (ครั้งแรกคิดว่าต้องเป็นคน Type : 8 แนะเหมือนกับเราเลย (หัวเราะ)...ยังไม่เฉลยนะ รอตอนจบว่าโค้ชผมType อะไร..และ Coach Nida มีความใส่ใจต่อตัวผู้เรียนมาก ค่อยให้คำแนะนำตลอดต้องปรับตรงนั้นต้องปรับตรงนี้ (เหมือนยืนอยู่ข้างๆเรา) ตลอดเวลาทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ Coach Nida ไม่ทิ้งเราแนนอน.. “เว้นแต่” เราจะทิ้ง Coach Nida (หัวเราะ) จำได้ว่าสองรอบสุดท้ายCoach Nida ให้คำแนะนำเรื่องมุ่งที่จะสอบผ่านก็ได้เอาสิ่งนี้มาทบทวนและกลับไปฝึกใหม่  จนกระทั้งถึงวันที่ Coach Nida ไลน์มาบอกว่าผ่านแล้วและก็ยังมีอีกหลายจุดที่เรายังต้องยกระดับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น วันนั้นดีใจมากและกำลังเป็นกังวลอยู่ว่าจะผ่านหรือเปล่า?

 

ณ ช่วงเวลาที่ยังไม่ได้เจอตัวจริงดูจาก Line & Facebook โค้ชสวยหมวยอินเตอร์ และชุดที่โค้ชใส่สีแดงปกติก็ชอบสีแดงอยู่แล้วเหมือนถูกดึงดูด อื่มคนนี้ละที่จะตัดสินใจเรียนด้วย (นอกเหนือ) จากการคำแนะนำของพี่ๆที่ไปเรียนก่อน  ณ ช่วงเวลาจริง ไปเรียนแบบ Face to Face ที่โรงแรมเราก็สังเกตทีมงาน สังเกตการเตรียมห้องเรียนทั้งสองหลักสูตรคือ หลักสูตรระดับที่ 1 และ 2 ก็มีความพร้อมรวมถึงโรงแรมที่เลือกใช้เป็นสถานที่ฝึกสอนก็เหมาะสมรวมถึงการเดินทางก็สะดวก ให้คะแนน (3 ผ่าน ขั้นที่ 1) ณ ช่วงเวลาที่เรียน Coach Nida ก็จัดเต็มมากอธิบายลึกถามตอบกับผู้เรียนรวมถึงการยกตัวอย่างให้เห็นภาพ (ครั้งแรกคิดว่าต้องเป็นคนType : 8 แนะเหมือนกับเราเลย (หัวเราะ)...ยังไม่เฉลยนะ รอตอนจบว่าโค้ชผมType อะไร..และ Coach Nida มีความใส่ใจต่อตัวผู้เรียนมาก ค่อยให้คำแนะนำตลอดต้องปรับตรงนั้นต้องปรับตรงนี้ (เหมือนยื่นอยู่ข้าง) ตลอดเวลาทำให้เรารู้สึกอุ่นใจ Coach Nida ไม่ทั้งเราแนนอน.. “เว้นแต่” เราจะทิ้ง Coach Nida(หัวเราะ) จำได้ว่าสองรอบสุดท้าย Coach Nida ให้คำแนะนำเรื่องมุ่งที่จะสอบผ่านก็ได้เอาสิ่งนี้มาทบทวนและกลับไปฝึกใหม่  จนกระทั้งถึงวันที่ Coach Nida ไลน์มาบอกว่าผ่านแล้วและก็ยังมีอีกหลายจุดที่เรายังต้องยกระดับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น วันนั้นดีใจมากและกำลังเป็นกังวลอยู่ว่าจะผ่านหรือเปล่า?

 

Coach Nida  มีความเป็นกันเอง มีความเป็นผู้ให้สูงมาก อธิบายละเอียด ใส่ใจและติดตามตลอดเวลา จากตอนแรกที่คิดว่าต้อง “หยิ่ง” แน่ๆเลย  ผิดคาดกันเองสุดๆ เฉลยตอนนี้ละกันนะครับ Coach Nida  Type : 5 Researcher และ Coach Nida เป็นคนที่ให้คำแนะนำแบบชัดเจนตรงไปตรงมา  ในช่วงแรกๆ ก็รู้สึกว่า “ว่าเราเปล่า” เหมือนเกิดภาวะ “Down” หากแต่มาทบทวนแล้วมันคือเรื่องจริงที่โลกภายในของข้าพเจ้าเองยังไม่เปลี่ยน หรือจับความคิดของตัวข้าพเจ้าเองได้ยังไม่ดีพอ Coach Nida เค้าเป็นห่วงผม ไม่ได้มาในมุมของการตัดสินแต่มันคือข้อเท็จจริงที่อยู่ตรงหน้า

 

ชอบประโยคหนึ่งคือ “ผมมีผักติดฟันซึ่งคนอื่นเห็นแต่ตัวผมเองที่ไม่เห็น” เมื่อผมผ่านจุดนั้นมาได้ก็ได้เรียนรู้ว่า ตอนนี้เราคิดอะไรของเราอยู่นะ และประทับใจตอนที่ Coach Nida  โค้ชภายใน Session ขอตั้งชื่อตอนนี้ว่า “เบิกเนตร” ที่ทำให้ข้าพเจ้าได้ปลดล๊อกจากความเชื่อตอนแรกที่มี ก็คิดว่านะ ชิลๆ ละกันไม่มีไรหรอก “ไงละน้ำหูน้ำตาแตกไม่รู้ตัว” จบ Session รู้สึกดีกับตัวเอง รู้สึกเบาสบายตัวไม่ต้องแบกอะไรไว้ในใจ และรวมถึงเรื่องที่ผม ไปโกรธคนนั้น ทะเลาะกับคนนี้ มันได้สูญหายไปใน Session ดังกล่าว  ยิ่งทำให้ผมหลงไหลศาสตร์การ Coaching มากขึ้นและประทับใจคำกล่าวของ Coach Nida ที่ว่า Coach ไม่ต้องทำอะไรเลยแค่ฟัง ถาม สะท้อนกลับ วิธีการและทางออกเป็นของ Coachee ตอนเริ่มเรียนก็สงสัย มีด้วยหรือแบบนี้?...พอเรียนจบ..ตอบตนเอง “มีจริง”

 

ความแตกต่าง

           

ผมเรียนการโค้ชในระดับขั้นพื้นฐานมาบ้างแต่เป็นการโค้ชในการทำงานในองค์กร ซึ่งเข้ามาโดยตลอดการโค้ชคือ ผู้ที่มีประสบการณ์แล้วไปสอนเรียกว่าโค้ช “โค้ชนักกีฬา” และตัวข้าพเจ้าเป็นอาจารย์พิเศษ ก็คิดว่ามาเรียนโค้ชเพื่อเอาไปสนับสนุนการสอน คิดเพียงเท่านั้น ผมไม่สามารถเปรียบเทียบกับสถาบันอื่นว่าแตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากเรียนกับสถาบันของ Coach Nida เพียงที่เดียวและสอบผ่าน PCC ณ สถาบันนี้เลยเรียกได้ว่า “Coach Nida เป็นผู้ตัดสายสะดือ” ให้เข้าสู่วงการโค้ชเลยครับ

 

ถ้าจะเปรียบเทียบก็คงเปรียบเทียบกับการทำงานคือการทำงานส่วนมากผมไม่ค่อยฟังถ้ารู้สึกว่าไม่ใช่ก็จะเข้าควบคุมทันที ดังนั้นปัญหาของผมมี 4 ประการคือ การตัดสิน, การไม่ฟังเชิงลึก, การควบคุมหรือบงการ, การจับประเด็น หลังจากที่ได้เข้าเรียนกับสถานบัน Coach Nida แล้ว จากปัญหาที่พบก่อนหน้า 4 ประการ ได้รับการพัฒนาและยกระดับขึ้นจากหลักสูตรของสถาบันและการฝึกฝนในภาคปฏิบัติที่เข้มข้น ตัวชี้วัดของผมคือ CEO เรียกเข้าไปพูดคุยและมีช่วงหนึ่งท่านได้ชื่นชมว่า “ปีนี้คุณนัทเปลี่ยนไปเยอะเลยนะผมสังเกตุจากการประชุม การประสานงาน ฟังและใจเย็นผิดกับเมื่อก่อนมาก และท่านก็ถามต่อว่าไปทำอะไรมา ผมก็ตอบไปตามจริงว่าไปเรียนเกี่ยวกับศาสตร์การ Coaching มาซึ่งก็เป็นความแตกต่างที่ชี้วัดจากสถานการจริง รวมถึง Feedback จากนนิสิตนักศึกษาที่สอนเมื่อก่อนจะกลัวไม่กล้าเข้าหา ปัจจุบันก็เข้าหาได้ง่ายขึ้นและนิสิตนักศึกษาก็ถามว่าอาจารย์ “ผีเข้าหรือเปล่า” พักนี้ไม่ค่อยดุ...(หัวเราะ) 

           

ท้ายที่สุดนี้ก็ต้องขอบคุณตัวเข้าพเจ้าเองที่กล้าที่จะออกจาก Comfort Zoneเพื่อก้าวข้ามข้อจำกัดของตัวข้าพเจ้าเอง และขอบคุณ Coach Nida และ Coach P’Som (Mentor ในหลักสูตรอีกท่าน) รวมถึงพี่ๆ ที่เรียนหลักสูตรระดับ 1 และ 2 ทุกท่านที่เป็นกัลยาณมิตรที่ดีช่วยส่งเสริมสนับสนุนให้สำเร็จจนสอบผ่าน PCC ในที่สุดครับ

 

Add the Line using Html tags

Program Director และ Trainer ประจำโปรแกรมนี้

Add the Line using Html tags

NIDA LEARDPRASOPSUK

 

นิดาเป็นที่นักกลยุทธ์ธุรกิจ เป็น Business consultant และ coach ที่ได้รับการรับรองในคุณวุฒิระดับสูงสุด Master Certified Coach (MCC) จาก International Coach Federation นิดามีประสบการณ์ด้านการตลาด การขาย และ branding จากการทำงานกับองค์กรระดับโลก Fortune 500 อย่าง L’Oreal, Unilever และธุรกิจของตนเองหลายธุรกิจ นิดาจบการศึกษาระดับปริญญาตรีและปริญญาโทจากต่างประเทศด้านบริหารธุรกิจและการตลาด และกำลังทำวิจัยสำหรับระดับปริญญาเอกในด้านจิตวิทยาสังคม

 

นิดาเป็นผู้ออกแบบและสอนหลักสูตรอบรมโค้ช สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนรู้ศาสตร์การโค้ชและ certify เป็น professional coach และต้องการสร้างธุรกิจการโค้ชให้ประสบความสำเร็จ

 

นิดาเป็นเจ้าของหนังสือ Shine from within ส่องแสงเจิดจรัสจากภายใน และหนังสือภาษาอังกฤษธุรกิจและการตลาด One to Millions Entrepreneur (ขายใน Amazon) และหนังสือพัฒนาตัวเองเล่มใหม่ที่กำลังจะออก Reinventing You Redesigning Life ตื่น! ปฏิวัติตัวตน ออกแบบชีวิตดั่งใจฝัน 

นิดาเป็นผู้ดำเนินรายการ podcast ที่ชื่อว่า The Expert Entrepreneur (ภาษาไทย) และรายการ Podcast Reinveinting You Redesigning Life เป็นพอดแคสต์เกี่ยวกับจิตวิทยาและการพัฒนาตัวเองในทุก ๆ ด้าน นอกจากนี้ยังมีรายการ Podcast ที่จัดเป็นภาษาอังกฤษชื่อว่า The Nida Leard Show ติดตามฟังได้ที่ apple podcast และ spotify

 


Add the Line using Html tags

ติดตาม Podcast รายการต่างๆของเราได้ทางนี้ค่ะ แตะที่นี่เพื่อฟังได้เลยค่ะ

Reinventing You Redesigning Life (apple, spotify)

The Expert Entrepreneur (apple, spotify)

สอบถาม สมัครเข้าอบรมได้ที่ LINE ของเราค่ะ

add Line: @coachnida

ลงทะเบียน Free Workshop ทาง Zoom:

The Path to Becoming a Professional Coach

วันเสาร์ที่ 4 ธ.ค. 2021 เวลา 16.00-18.00 น.

Video Poster Image
Video Poster Image
Video Poster Image
Video Poster Image